วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เซราะกราว โค่น กิเลน 2-0 ซิวถ้วย ก.

เซราะกราว โค่น กิเลน 2-0 ซิวถ้วย ก.ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. (ครั้งที่ 78)
       เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 0-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกแห่งศักดิ์ศรีฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. ครั้งที่ 78 ประจำปี 2013 เป็นการพบกันระหว่าง 2 มหาอำนาจลูกหนังไทย “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ไร้พ่ายไทยพรีเมียร์ลีก 2012 และแชมป์เก่าถ้วยใบนี้ปี 2010 ปะทะ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ซีซันที่แล้ว เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 ณ สนามศุภชลาศัย เวลา 17.00 น. โดยมี คิม ซาง วู เชิ๊ตดำชาวเกาหลีลงตัดสิน
       
       เกมนี้ทั้งสองทีมส่งชุดใหญ่ลงสนาม โดย “ย็อคกา” สลาวิซา โยคาโนวิช จัดทัพในระบบ 4-4-2 วาง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงเบอร์ 1 ลงคู่กับ โรแลนด์ ลินซ์ หอกทีมชาติออสเตรีย ในแดนหน้า แผงกลางมี มาริโอ ยูรอฟสกี เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งคอยทำเกมร่วมกับ ปาร์ค นัม โชล, จักรพันธ์ พรใส และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว หลังบ้านเป็น ภานุพงศ์ วงศ์ษา, คิม ยูจิน, มงคล นามนวด และ ปิยพล บรรเทา ผู้รักษาประตูเป็น วีระ เกิดพุดซา
       
       ฟาก “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม ส่ง 2 แข้งนอกตัวใหม่ประเดิมสนามทั้ง รัมแซส บาสโตส กองหน้าชิลี และ คาเมโล กอนซาเลซ มิดฟิลด์ชาวสเปน ทำเกมร่วมกับ ไค ฮิราโนะ, อนาวิน จูจีน, ชาริล ชัปปุยส์ และ สุรัตน์ สุขะ ขณะที่แผงหลังจากซ้ายไปขวาเป็น ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง, ออสมาร์ อิบาเนซ และ สุรีย์ สุขะ โดย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสา
       
       เปิดฉากมาไม่ถึง 5 นาที เป็น มาริโอ ยูรอฟสกี ที่ได้หลุดไปซัดเสาแรกทักทายก่อน แต่ติดเซฟ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่แล้วถัดมานาทีเดียวแฟน “เซราะกราว” ก็ได้เฮลั่นสนามจากจังหวะที่ รัมแซส บาสโตส ได้บอลในเขตโทษ ก่อนพักบอลหนีกองหลังแล้วตวัดยิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำเร็ว 1-0 เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงทั้งสองทีมยังสู้กันได้อย่างสูสีแม้แชมป์เก่าปี 2010 จะพยายามบุกทวงประตูคืนแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับเข้าไปลุ้นสกอร์ได้
       
       เอสซีจี เมืองทองฯ พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายใน น.39 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว กระดกบอลข้ามแผงหลังให้ โรแลนด์ ลินซ์ หลุดเข้าไปเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่หอกออสเตรียกลับยิงไปติดเซฟออกหลังไป เข้าสู่ช่วงท้ายของครึ่งแรก บุรีรัมย์ ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะโต้กลับ อนาวิน จูจีน ลองส่องไกลบริเวณหัวกระโหลกแต่เป็น วีระ ที่ซุปเปอร์เซฟได้ด้วยปลายมือ
       
       ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ เปลี่ยนเอา อดิศักดิ์ ไกรษร ลงแทน คาร์เมโล กอนซาเลซ เกมดำเนินมาถึง น.69 บาสโตส เกือบจะบวกประตูที่สองของตนเองหลังหลุดเข้าไปลากหลบ วีระ ก่อนยิงโล่งๆแต่บอลไปชนสามเหลี่ยมอย่างจัง “เซราะกราว” ยังคงบุกต่อและมาได้โอกาสจากจังหวะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษสองคนในน.73 บาสโตส ถวายพานให้ ธีราทร บุญมาทัน ที่เติมขึ้นมายิงโล่งตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าชวดได้ประตูไป เอสซีจี เมืองทองฯ ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนหลัง มงคล นามนวด ไปทำแฮนด์บอล โดนเหลืองที่ 2 ออกจากสนาม
       
       และแล้วความพยายามของ “ปราสสาทสายฟ้า” ก็มาสำเร็จใน น.82 สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่ลงมาเป็นสำรองไหลออกขวาให้ รัมแซส บาสโตส คนเดิมยิงด้วยซ้ายสวนตัวผู้รักษาประตูเข้าไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนี 2-0 หมดเวลาการแข่งขันเป็น “เซราะกราว” ที่เอาชนะไป 2-0 คว้าแชมป์ถ้วย ก. ไปครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : ผู้รักษาประตู วีระ เกิดพุดซา กองหลัง ภานุพงศ์ วงศ์ษา, คิม ยูจิน, มงคล นามนวด, ปิยพล บรรเทา กองกลาง ปาร์ค นัม โชล, จักรพันธ์ พรใส, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว (กัปตันทีม), มาริโอ ยูรอฟสกี กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา, โรแลนด์ ลินซ์
       บุรีรัมย์ ยุไนเต็ด : ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กองหลัง ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง, ออสมาร์ อิบาเนซ (กัปตันทีม), สุรีย์ สุขะ กองกลาง สุรัตน์ สุขะ, ชาริล ชัปปุยส์, อนาวิน จูจีน, คาร์เมโล กอนซาเลซ, ไค ฮิราโนะ กองหน้า รัมแซส บาสโตส

Share

เซราะกราว โค่น กิเลน 2-0 ซิวถ้วย ก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น